การบริการเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะทำให้เครื่องกรองน้ำทำงานได้ตามปกติ และมีประสิทธิภาพ
#การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ
1. เลือกตามระบบการกรอง ประเภทของเครื่องกรองน้ำ
- ประเภทเครื่องกรองน้ำ RO หรือการกรองด้วยระบบ Reverse Osmosis เครื่องกรองน้ำที่สามารถกรองสารปนเปื้อนน้ำได้มากถึง 95% โดยมีระดับการกรองอยู่ที่ 0.0001 ไมครอน
- ประเภทเครื่องกรองน้ำระบบ UV เป็นการฆ่าเชื้อโรคในน้ำโดยใช้แสงอัลตร้าไวโอเล็ตหรือแสง UV
- ประเภทเครื่องกรองน้ำ UF หรือการกรองน้ำด้วยระบบ Ultra Filtration โดยมีการเพิ่มชั้นกรองต่าง ๆ เข้ามาเพื่อกำจัดแบคทีเรียและสิ่งไม่พึงประสงค์อื่น ๆ เป็นการใช้เยื่อกรองที่สามารถกรองสิ่งเจือปนขนาดเล็ก 0.01 ไมครอน
2. เลือกพิจารณาถึง “น้ำดิบ” แหล่งน้ำที่นำมากรองหรือน้ำที่จะใช้กรอง
3. เลือกตามขนาดของครัวเรือน
โดยพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครัวเรือน รวมไปถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณเอง
4. เลือกที่มีมาตรฐานรับรอง
โดยพิจารณาจากสัญลักษณ์และข้อความการรับรอง การรับรองมาตรฐาน ISO 9001, Water Quality Association (WQA) การรับรองจากสมาคมคุณภาพน้ำดื่มแห่งสหรัฐอเมริกา, การรับรองมาตรฐานจากประเทศไทย Thailand Trusted Mark หรือมีตราสัญลักษณ์ของ NFS ที่ใช้ในการรับรองผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคว่ามีมาตรฐานตรงตามสากล
5. เลือกจากความเหมาะสมของตำแหน่งที่จะติดตั้ง
6. เลือกจากงบประมาณที่ตั้งไว้
7. เลือกที่มีการรับประกันเครื่องกรองน้ำ และบริการหลังการขาย
เลือกเครื่องกรองน้ำที่มีการรับประกัน และมีศูนย์บริการที่สามารถติดต่อซื้อไส้กรองได้ง่าย แบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนและซ่อมแซมอะไหล่ในการใช้งานระยะยาว